จุดเด่นบ้านสไตล์อังกฤษ ความหรูหราที่แฝงความอบอุ่นเรียบง่าย

บ้านสไตล์อังกฤษได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานความหรูหราและความอบอุ่นได้อย่างลงตัว แม้จะมีการพัฒนารูปแบบมาอย่างยาวนาน แต่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่สะท้อนวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอังกฤษไว้ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับบ้านสไตล์อังกฤษให้มากขึ้น จะมีจุดเด่นและการตกแต่งอย่างไรบ้างมาหาคำตอบไปพร้อมกัน
บ้านสไตล์อังกฤษ คืออะไร ?
บ้านสไตล์อังกฤษ (British Style House) คือ รูปแบบการออกแบบและตกแต่งบ้านที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในของประเทศอังกฤษ โดยมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแต่ละยุคสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกและความสง่างาม
การออกแบบบ้านสไตล์อังกฤษมักเน้นความสมมาตรของตัวอาคาร มีการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น อิฐ หิน และไม้ ที่สื่อถึงความแข็งแรงและความคงทน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับรายละเอียดการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ที่สะท้อนถึงรสนิยมอันประณีตและความใส่ใจในทุกองค์ประกอบ

จุดเด่นการแต่งบ้านสไตล์อังกฤษ
บ้านสไตล์อังกฤษมีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยแบ่งเป็น 6 จุดหลัก ๆ ดังนี้
- การออกแบบโครงสร้างและภายใน
มักออกแบบโครงสร้างให้สมมาตรและมีสัดส่วนที่ลงตัว โดยมีหลังคาทรงสูงหรือทรงจั่วแบบคลาสสิก เพดานสูงพร้อมลวดลายปูนปั้น บัวผนังและบัวเพดานประดับลวดลาย วัสดุที่ใช้มาจากธรรมชาติ เช่น อิฐแดงหรือหินธรรมชาติ พื้นไม้หรือหินอ่อนที่มีลวดลายคลาสสิก
นอกจากนี้หน้าต่างยังเป็นบานใหญ่แบบกระจกช่องเล็ก (Mullioned Windows) และมีปล่องไฟลวดลายสวยงาม อีกทั้งยังมีประตูทางเข้าที่โดดเด่นด้วยการแกะสลักหรือการตกแต่งแบบคลาสสิก พร้อมเพิ่มไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้ด้วยเตาผิงที่ตกแต่งอย่างประณีต
- การเลือกใช้โทนสีอ่อน
การเลือกใช้โทนสีอ่อนประกอบด้วย สีครีม เบจ และขาวนวลเป็นสีหลัก เพื่อสร้างความนุ่มนวลให้กับพื้นที่ ซึ่งผสมผสานสีพาสเทลอ่อน ๆ เพิ่มเติมได้ด้วย เช่น สีฟ้าอ่อน สีเขียวมิ้นต์ และสีชมพูอ่อน ทั้งนี้การเลือกใช้สีเทาอ่อนเป็นสีกลางเพื่อเชื่อมโยงโทนสีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ก็นับเป็นการเพิ่มมิติความสวยงามยิ่งขึ้น
- ลวดลายประดับตกแต่ง
สิ่งที่สะท้อนการตกแต่งสไตล์อังกฤษได้ดีอีกองค์ประกอบ คือการใช้ลายประดับแบบ Victorian บนบัวผนังและบัวเพดาน ก็ช่วยบ่งบอกเอกลักษณ์ของสไตล์นี้อย่างโดดเด่น และเพิ่มเติมลวดลายสลักบนเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบคลาสสิกเข้าไปด้วยยิ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น บวกกับการใส่ส่วนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างลายฉลุโลหะบนโคมไฟและอุปกรณ์ตกแต่ง การปักลวดลายบนหมอนอิงและเบาะรองนั่งแบบดั้งเดิม หรือแม้แต่การแกะสลักไม้บนกรอบประตูและหน้าต่างแบบวินเทจ รวมถึงการตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์โทนสีอ่อนกับลวดลายดอกไม้แบบวินเทจนั้น ก็ช่วยทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านสวยงามน่าอยู่ตามสไตล์บ้านแบบอังกฤษที่ถูกต้อง
- การจัดวางเฟอร์นิเจอร์
ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบคลาสสิก โดยโซฟาและเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่หรือหนัง ภายในห้องครัวก็เลือกชุดรับประทานอาหารแบบคลาสสิก พร้อมจัดวางตู้โชว์สำหรับวางเครื่องเงินหรือเครื่องกระเบื้องจะได้เชื่อมโยงกับการตกแต่งโซนอื่น ๆ ของบ้าน และบริเวณที่เป็นหน้าตาของบ้านอีกหนึ่งจุดคือเพดานกลางบ้าน จะขาดไม่ได้ที่ต้องประดับโคมไฟระย้าหรือโคมไฟผนังแบบคลาสสิกไม่ได้เพื่อความหรูหราอีกระดับ ปิดท้ายด้วยการนำผ้าม่านสีอ่อนโปร่งแสงมาประดับ นอกจากเพื่อความสวยงามก็ยังช่วยกรองแสงธรรมชาติได้อย่างนุ่มนวลด้วย
- การให้แสงและใช้ไฟ Warm White
หลังจากประดับโคมไฟระย้าคริสตัลแล้ว ควรเลือกใช้หลอดไฟ Warm White เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา โดยติดตั้งไฟ Warm White แบบบิวท์อินตามบัวเพดานเพื่อเน้นลวดลายสถาปัตยกรรมให้เด่นชัดขึ้น ส่วนโคมไฟตั้งพื้นและโคมไฟตั้งโต๊ะ นอกจากจะให้แสงนวลตาสำหรับมุมพักผ่อนแล้ว ยังทำให้แต่ละจุดสอดคล้องกันได้อย่างลงตัว และบ้านไหนที่สร้างเตาผิงเทียมเราแนะนำให้ใช้ไฟ LED Warm White เพื่อสร้างบรรยากาศในขณะเดียวกันก็คงคุณภาพดีในการใช้งาน

รูปแบบของบ้านสไตล์อังกฤษ แบ่งเป็น 5 ประเภทย่อย ๆ ดังนี้
1. Classical British Style
สไตล์คลาสสิกบริติชเป็นการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุคจอร์เจียนและวิคตอเรียน ซึ่งเน้นความสง่างามและความหรูหรา
ลักษณะเด่น : การใช้โทนสีเข้ม เช่น น้ำตาลเข้ม เขียวเข้ม แดงเลือดหมู การใช้เฟอร์นิเจอร์จะต้องเป็นไม้แบบคลาสสิกที่มีการแกะสลักลวดลาย ผ้าม่านหนาแบบจีบรูด ปูพรมลวดลายคลาสสิก พร้อมประดับตกแต่งด้วยงานศิลปะและกระจกเงาแบบวินเทจ และติดตั้งโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ ที่สำคัญการใช้วัสดุอย่างหินอ่อนและไม้คุณภาพสูงก็จะส่งเสริมให้การตกแต่งสไตล์นี้โดดเด่นยิ่งขึ้น
2. English Cottage Style
สไตล์คอทเทจเป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านพักตากอากาศในชนบทอังกฤษ เน้นความอบอุ่นและความเรียบง่าย
ลักษณะเด่น : การใช้โทนสีอ่อน เช่น ครีม ขาว เบจ เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบเรียบง่าย ผ้าม่านและหมอนอิงต้องเป็นผ้าลินินและผ้าฝ้ายธรรมชาติ นอกจากนี้บนโต๊ะควรมีดอกไม้สดและมุมต่าง ๆ ต้องมีต้นไม้ประดับ มุมเตาใช้วัสดุเป็นผิงอิฐหรือหิน และออกแบบพื้นด้วยการใช้ไม้ธรรมชาติ และเพิ่มกิมมิกด้วยการวางของตกแต่งแบบวินเทจตามใจชอบ
3. Victorian Style
สไตล์วิคตอเรียนเป็นการออกแบบที่สะท้อนความรุ่งเรืองในยุคของพระราชินีวิคตอเรีย เน้นความหรูหราและความประณีตในทุกรายละเอียด
ลักษณะเด่น : การใช้สีเข้มและสดใส เช่น แดง ม่วง น้ำเงิน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาตกแต่งต้องเป็นไม้แบบหรูหราพร้อมการแกะสลัก ผ้าม่านและเบาะใช้ผ้ากำมะหยี่ วอลล์เปเปอร์ต้องมีลวดลายแบบซับซ้อน ปูพรมลายดอกไม้หรือลายตะวันออก ที่สำคัญต้องมีงานปูนปั้นและบัวลวดลายสร้างความโดดเด่น
4. English Modern Style
สไตล์อังกฤษโมเดิร์นเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับความร่วมสมัย ทำให้บ้านดูทันสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นอังกฤษ
ลักษณะเด่น : เป็นการผสมผสานวัสดุสมัยใหม่กับวัสดุคลาสสิกเข้าด้วยกันและใช้โทนสีกลาง เช่น เทา เบจ ขาว พร้อมวางเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบแต่มีรายละเอียดแบบคลาสสิก บริเวณพื้นใช้ไม้สีอ่อนหรือพื้นหินขัดมัน ประดับตกแต่งด้วยผ้าม่านโปร่งสีอ่อน ผลงานศิลปะร่วมสมัย และโคมไฟที่ดูทันสมัยขึ้น
5. English Country Style
สไตล์คันทรีอังกฤษเป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านในชนบทอังกฤษ เน้นความสบายและความเป็นธรรมชาติ
ลักษณะเด่น : การใช้โทนสีธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เขียว เบจ โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบคลาสสิกผสมรัสติก และผ้าลายดอกไม้กับลายตาราง บริเวณพื้นเลือกใช้วัสดุเป็นไม้ธรรมชาติหรือกระเบื้องเทอราคอตต้า พร้อมประดับด้วยของตกแต่งจากธรรมชาติ เตาผิงหินหรืออิฐ และโคมไฟแบบคันทรี
เลือกบ้านสไตล์อังกฤษให้เหมาะกับคุณอย่างไร ?
การเลือกสไตล์บ้านอังกฤษควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. ไลฟ์สไตล์และการใช้งาน
- หากชอบความหรูหราและมีระดับแนะนำ Classical British หรือ Victorian
- ถ้าชอบความอบอุ่นและเรียบง่ายคุณเหมาะกับ Cottage หรือ Country
- สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัยต้องเป็น English Modern เท่านั้น
2. ขนาดพื้นที่
- หากพื้นที่บ้านมีขนาดใหญ่เหมาะกับ Classical British และ Victorian
- กรณีบ้านขนาดกลางถึงเล็กเหมาะกับ Cottage และ Country
- ส่วนทาวน์โฮมหรือคอนโดแนะนำว่าควรเป็น English Modern
3. งบประมาณ
- Classical British และ Victorian ต้องใช้งบประมาณสูง ดังนั้นควรคำนวณให้ดี
- Cottage และ Country ใช้งบประมาณปานกลาง จึงเลือกวัสดุต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสม
- English Modern สามารถปรับงบประมาณได้ตามวัสดุที่เลือกใช้ จึงประหยัดงบประมาณได้มากกว่าแบบอื่น
เผยเสน่ห์ที่ผสานความหรูหราและอบอุ่นเข้าด้วยกัน
บ้านสไตล์อังกฤษมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผสมผสานความสวยงามหรูหราและความอบอุ่นได้อย่างลงตัว ดังนั้นการเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนตัวจะช่วยให้คุณได้บ้านที่ทั้งสวยงามและอยู่สบาย ที่สำคัญคุณยังได้รักษาสมดุลระหว่างความคลาสสิกดั้งเดิมกับการประยุกต์การออกแบบให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคุณสามารถดูแบบบ้านหรูเพิ่มเติมเพื่อหาไอเดียสร้างบ้าน หรือหากต้องการเข้ามาปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจาก พาลาซโซ่ ไอเอ เราพร้อมเนรมิตบ้านในฝันในแบบที่คุณต้องการ ติดต่อเรา